สมาคมเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณ ร่วมกับ อิมคาส IMCAS. จัดงานประชุมนานาชาติ อิมคาส  IMCAS ASIA 2023  ครั้งที่ 16

สมาคมเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณ ร่วมกับ องค์กรการจัดงานประชุมระดับโลกด้านแพทย์ผิวหนัง ศัลยกรรมพลาสติก เวชศาสตร์ความงามและการแพทย์ด้านฟื้นฟูความเสื่อม อิมคาส IMCAS (International Master Course on Aging Science) ประเทศฝรั่งเศส มีกำหนดจัดงานประชุมนานาชาติ อิมคาส  IMCAS ASIA 2023  ครั้งที่ 16 ระหว่างวันที่ 9 – 11 มิถุนายน 2566 ณ โรงแรมดิ แอทธินี โฮเต็ล อะลักชัวรี คอลเลคชั่น โฮเต็ล กรุงเทพฯ โดย ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกรุเทพฯ เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ในวันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน 2566  ห้องประชุม Room 1 ชั้น2  โรงแรมดิ แอทธินี โฮเต็ล อะลักชัวรี คอลเลคชั่น โฮเต็ล เวลา 08.00-09.00น.

วัตถุประสงค์การจัดงานครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการจัดประชุมวิชาการทางการแพทย์ระดับโลก Word Congress ในประเทศไทย สนับสนุนแพทย์ไทยให้ได้มีการนำเสนอผลงานวิชาการในเวทีโลก เป็นผู้นำทางด้านการศึกษาและงานวิจัยทางการแพทย์ โดยเฉพาะเวชศาสตร์ความงามด้านผิวหนังและศัลยกรรมพลาสติก ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับนานาชาติเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ และตอบสนองนโยบายยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว medical tourism หลังโรคระบาดโควิด 19

ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกรุเทพฯ กล่าวว่า จุดมุ่งหมายการประชุมนานาชาติ IMCAS ASIA 2023 ครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการประชุมวิชาการทางการแพทย์การจัดประชุมนานาชาติ (MICE) ส่งเสริมให้สมาคมทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องได้ เป็นสมาชิกองค์กรระดับนานาชาติ และส่งเสริมการจัดประชุมวิชาการทางการแพทย์ระดับโลก Word Congress ในประเทศไทย

เพิ่มขีดความสามารถ ในการพัฒนาความรู้และศักยภาพของแพทย์ เพื่อนำไปต่อยอดด้านบริการรักษาพยาบาล ให้มีมาตรฐานระดับสากล สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นผู้นำด้านการศึกษาทางการแพทย์และศาสตร์ด้านบริการเพื่อสุขภาพอื่นๆ ในระดับโลก เป็นศูนย์กลางการประชุมและการจัดนิทรรศการทางการแพทย์ระดับนานาชาติ สนับสนุนการนำเสนอผลงานของแพทย์ไทยในเวทีระดับนานาชาติ  (Education Hub)รวมถึงการบริการทางวิชาการและงานวิจัยทางการแพทย์ (Academic Hub) เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ ให้อยู่ในอันดับหนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียน ส่งเสริมนวัตกรรม และงานวิจัย ทางด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Product Hub) ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวตลอดจนส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทยในระดับนานาชาติ เพื่อตอบสนองนโยบายยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (medical hub) ปี พ.ศ.2560 -2569 

แพทย์หญิงนลินี สุทธิพิศาล นายกสมาคมเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณแห่งประเทศไทย และแพทย์หญิงอัจจิมา สุวรรณจินดา แพทย์ผิวหนังและศัลยกรรมผิวหนัง กรรมการฝ่ายวิชาการและเลขาสมาคมเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณแห่งประเทศไทย และงานประชุมในครั้งนี้ ได้กล่าวว่า ทางสมาคมได้ร่วมกับ อิมคาส IMCAS (International Master Course on Aging Science) ซึ่งเป็นองค์กรจัดงานประชุมระดับโลกด้านการแพทย์ผิวหนัง ศัลยแพทย์พลาสติก เวชศาสตร์ความงาม และฟื้นฟูความเสื่อม จากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีการจัดงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติในรูปแบบ World Congress ทุกปีที่ประเทศฝรั่งเศส มีผู้เข้าร่วมประชุมมากสูงสุดเป็นอันดับต้นๆของโลก  18,000-20,000 คน ต่อปี  และยังได้มีการจัดการประชุมในประเทศต่างๆในเอเชีย ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ได้รับเลือกให้เป็นศูนย์กลางการจัดงานในประเทศแถบเอเชีย ปีนี้ได้มีการจัดงานร่วมกับอิมคาส IMCAS เป็นปีที่สี่

โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากที่ต่างๆทั่วโลกกว่าสองพันคน  เป็นการประชุมวิชาการที่มีการอัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคล่าสุดทั้งในขั้นตอนการผ่าตัด  และการรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด(การสาธิตฉีดฟิลเลอร์ โบท็อก การร้อยไหม และเลเซอร์ ฯลฯ) มีการสอนแสดงสด ร่วมกับด้านกายวิภาคศาสตร์ (anatomy) โดยถ่ายทอดสด จากโรงเรียนแพทย์ ในประเทศฝรั่งเศส มายังประเทศไทย  ซึ่งในปีนี้เองได้มีการบรรยายเกี่ยวกับนวัตกรรมการแพทย์อนาคตด้านการชะลอความเสื่อม (regenerative medicine and aesthetics) ภายในงานยังส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทางการแพทย์ให้มีการจัดแสดงเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก ยกระดับศักยภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์เครื่องมือและการให้บริการทางการแพทย์ให้เทียบเท่ากับระดับสากล 

ผู้ที่สนใจ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมตามวัน และเวลาดังกล่าวโดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและแจ้งชื่อ เพื่อรับบัตรเข้างาน ได้ที่ พัชรินทร์ สีพลไกล 081 844 0977 หรือ Line ID: itcam 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *

You may have missed